จากหนังสือ : อัตตุห์ฟะตุนนัจญะมียะฮ์ ฟีชัรอัรบะอีนอันนะวะวีย์
แปลโดย : รอมฎอน พวงผกา
ฮะดีษที่ 1
عَنْ أَمِيرِ المُؤمِنينَ أَبي حَفْصٍ عُمَرَ بْنِ الخَطَّابِ رَضيَ اللهُ تعالى عنْهُ قَالَ: سَمِعْتُ رَسُولَ اللهِ يَقُولُ: إِنَّمَا الأَعْمَالُ بِالنِّيَّاتِ، وَإِنَّمَا لِكُلِّ امْرِئٍ مَا نَوَى، فَمَنْ كَانَتْ هِجْرَتُهُ إِلى اللهِ وَرَسُوله فَهِجْرَتُهُ إلى اللهِ وَرَسُوله، وَمَنْ كَانَتْ هِجْرَتُهُ لِدُنْيَا يُصِيْبُهَا، أَو امْرأَة يَنْكِحُهَا، فَهِجْرَتُهُ إِلى مَا هَاجَرَ إِلَيْهِ 1
- มีรายงานจากอะมีรุลมุอ์มินีน อะบี ฮัฟศิน คือ ท่านอุมัร อิบนุ คอฏฏอบ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า : ฉันได้ยิน ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ท่านได้กล่าวว่า : “ความจริงแล้วการงานต่างๆ นั้นขึ้นอยู่กับการตั้งเจตนาเท่านั้น และทุกคนจะได้รับ (ผลตอบแทน) ตามที่เขาตั้งเจตนาไว้ ฉะนั้นบุคคลใดที่การอพยพของเขาเป็นไปเพื่ออัลลอฮ์และเราะซูลของพระองค์ ดังนั้นการอพยพของเขาก็เป็นไปเพื่ออัลลอฮ์และเราะซูลของพระองค์ และผู้ใดที่การอพยพของเขาเป็นไปเพื่อ (ผลประโยชน์) ทางโลกดุนยาที่จะได้รับ หรือเพื่อสตรีนางหนึ่งที่เขาจะแต่งงานด้วย ดังนั้นการอพยพของเขา ก็เป็นไปตามที่เขาอพยพไปนั่นเอง”(บุคอรีย์ : (1) มุสลิม : (1907)
คำอธิบาย :
คำกล่าวของท่านนะบีย์ ﷺ ที่ว่า: “ความจริงแล้วการงานต่างๆ นั้นขึ้นอยู่กับการตั้งเจตนาเท่านั้น และทุกคนจะได้รับ (ผลตอบแทน) ตามที่เขาตั้งเจตนาไว้” ประโยคแรกเป็นการจำกัดความด้วยคำว่า “إنما” (อินนะมา) ซึ่งเป็นคำที่ใช้เพื่อการจำกัด ทำให้เข้าใจว่า การงานต่างๆทั้งหลายขึ้นอยู่กับเจตนา ดังนั้นหากการงานของเขามีเจตนาเพื่ออัลลอฮ์ ﷻ ดังนั้นพระองค์จะตอบแทนเขาจากการงานดังกล่าวนั้น มอบรางวัลให้กับเขา และให้ผลบุญเขาตามความเหมาะสมที่ได้รับ และผู้ใดที่เจตนาและเป้าหมายของเขาจากการงานนั้นเป็นเรื่องเพื่อทางโลกดุนยา เขาก็จะไม่ได้รับผลบุญ และจะได้รับจากการงานนั้นตามสิ่งที่เขาตั้งใจไว้เท่านั้น
ประการที่สอง: คำกล่าวของท่านนะบีย์ ﷺ ที่ว่า: “และทุกคนจะได้รับ (ผลตอบแทน) ตามที่เขาตั้งเจตนาไว้” ตรงนี้เช่นกัน ก็เป็นการจำกัดผลบุญของการงานไว้ในสิ่งถูกเจตนาไว้ ดังนั้นเมื่อการงานนั้นทำด้วยเจตนาเพื่ออัลลอฮ์ ﷻ เขาก็จะได้รับผลบุญ และเขาหวังว่าจะปลอดภัยจากการลงโทษด้วยการงานนั้น
จากนั้นท่านนะบีย์ก็เริ่มอธิบายโดยละเอียดว่า: “ดังนั้น ผู้ใดที่การอพยพของเขาเป็นไปเพื่ออัลลอฮ์และเราะซูลของพระองค์ ดังนั้นการอพยพของเขาก็จะเป็นไปเพื่ออัลลอฮ์และเราะซูลของพระองค์” หมายถึง ผู้ใดการอพยพของเขามีเจตนาและเป้าหมายเพื่ออัลลอฮ์และเราะซูลของพระองค์ การอพยพของเขาที่เพื่ออัลลอฮ์และเราะซูลของพระองค์ก็จะได้รับผลบุญและการตอบแทน
“และผู้ใดที่การอพยพของเขาเพื่อโลกนี้ที่เขาจะได้รับมัน” หมายถึง เพื่อทรัพย์สินที่เขาจะได้รับมัน “หรือสตรีที่เขาต้องการแต่งงานกับนาง” หรือจุดประสงค์ใดๆก็ตามจากเป้าหมายทางโลกดุนยา
ดังนั้นความจริง “การอพยพของเขาก็จะเป็นไปเพื่อสิ่งที่เขาอพยพไปหา” หมายถึง ถูกบันทึกไปยังการอพยพไปยังสิ่งนั้น ไปยังเป้าหมายของเขาไม่ว่าเขาจะได้สิ่งนั้นหรือไม่ได้ก็ตาม
จากนั้นก็กล่าวว่าความจริงแล้วการเจตนาเป็นเงื่อนไขหนึ่งในความถูกต้องของการงานทั้งหลาย ฉะนั้นด้วยเจตนา การงานของเราจึงแยกออกได้ระหว่าง “อิบาดะฮ์” (การเคารพภักดี) กับ “อาดาต” (กิจวัตรทั่วไป) และด้วยเจตนายังแยกแยะ “อิบาดะฮ์” แต่ละประเภทออกจากกันได้อีกด้วย ฉะนั้นเมื่อคุณเข้าไปละหมาดร่วมกับผู้คนที่กำลังละหมาดอยู่ โดยคุณตั้งใจจะละหมาด “ซุฮฺร์” ขณะที่พวกเขากำลังละหมาด “อัศร์” นั้นก็ถือว่าเป็นที่อนุญาตในเรื่องดังกล่าวนี้ แต่คุณจำเป็นต้องเจาะจง (ตั้งเจตนา) ว่าคุณกำลังจะละหมาดอะไร มันเป็นละหมาดฟัรฎูหรือเป็นละหมาดซุนนะฮ์? ถ้าเป็นฟัรฎู ก็ต้องตั้งใจให้ชัดว่าเป็นฟัรฎูไหนใน 5 เวลา? ถ้าเป็นละหมาดซุนนะฮ์ ก็ต้องตั้งใจว่าเป็นซุนนะฮ์ประเภทใด? คุณตั้งใจละหมาดซุนนะฮ์ก่อนหรือหลังฟัรฎู (รอวาติบ)ใช่ไหม? หรือเป็นซุนนะฮ์ทั่วไป?
และในเรื่องของ “ความสะอาด” ก็เช่นเดียวกัน ดังนั้นเมื่อคุณกำลังจะอาบน้ำ ก็จำเป็นต้องจำแนกการอาบน้ำนี้ ว่าเป็นการอาบน้ำยกฮะดัษญะนาบะฮ์ (จากการมีเพศสัมพันธ์) ใช่ไหม? หรืออาบน้ำในวันศุกร์? หรืออาบน้ำเพื่อครองอิห์รอม (เตรียมตัวไปหัจญ์หรืออุมเราะฮ์)? หรืออาบน้ำเพื่อเข้าสู่เมืองมักกะฮ์? หรืออาบน้ำเพื่อวันอีดใดอีดหนึ่ง (อีดิลฟิฏร์ หรือ อีดิลอัฎฮา)? หรือคุณตั้งใจอาบน้ำเพียงเพื่อความสะอาดและความสดชื่น?
ฉะนั้นสิ่งสำคัญก็คือ: ความจริงแล้วการเจตนานั้นเป็นสิ่งที่จำแนกระหว่าง การอิบาดะฮ์ ออกจากกิจวัตรทั่วไป และยังจำแนกระหว่าง การอิบาดะฮ์แต่ละประเภทออกจากกัน และยังจำแนกถึงจุดประสงค์ของการงาน เนื่องจากศาสนานั้นตั้งอยู่บน 2 สิ่งหลัก คือ:
1. ความบริสุทธิ์ใจ (อิคลาศ) ในการงาน
2. การปฏิบัติตามแบบอย่างของท่านเราะซูล ﷺ และศาสนาจะไม่ถูกตอบรับนอกจากจะมีทั้งสองเงื่อนไขนี้ ดังนั้นผู้ใดที่มีความบริสุทธิ์ใจในการกระทำเพื่ออัลลอฮ์ แต่การกระทำนั้นไม่ถูกต้องตามแนวทาง ก็ถือว่าเขาขาดหนึ่งในสองเงื่อนไขที่ทำให้การงานนั้นถูกตอบรับ เช่นเดียวกัน ถ้าการกระทำนั้นถูกต้องแต่ไม่มีความบริสุทธิ์ใจเพื่ออัลลอฮ์ ก็จะไม่ถูกรับเช่นกัน
และด้วยอัลลอฮ์คือความสำเร็จ (คือเราขอให้พระองค์ประทานความสำเร็จแก่เรา)