24 Jun
24Jun

อธิบายโดย ชัยค์อับดุลอะซีซ อัรรอญิฮีย์

แปล รอมฎอน พวงผกา


อิหมามมูฮัมหมัด อิบนุ อับดุลวะฮาบ เราะฮิมะฮุลลอฮ์ ได้กล่าวว่า : 

พึงทราบเถิดว่า ขออัลลอฮ์ทรงชี้แนะท่านให้ภักดีต่อพระองค์

คำอธิบาย

     คำว่ากล่าวที่ว่า : (اعلم) เป็นคำกริยาสั่งที่ใช้เพื่อให้ความสนใจ และความหมายของมันคือ : จงรู้ไว้อย่างมั่นใจ คือ เป็นการตัดสินใจของจิตใจที่แน่วแน่ และ “العلم” (ความรู้) คือ ความมั่นใจโดยไม่มีความสงสัยและไม่มีความลังเล ส่วนคนที่รู้แต่ไม่ปฏิบัติ  คนนั้นคือ ผู้หลงผิด (غاوي) และคนที่ปฏิบัติโดยไม่มีความรู้ คนนั้นคือ คนหลงทาง (ضال) แต่คนที่ได้รับทางนำ (راشد) คือคนที่ปฏิบัติด้วยความรู้และความเข้าใจที่ชัดเจน     

                  

อิหมามมูฮัมหมัด อิบนุ อับดุลวะฮาบ เราะฮิมะฮุลลอฮ์ ได้กล่าวว่า : 

ความจริงแล้วศาสนาที่เที่ยงแท้นั้นคือศาสนาของนะบีอิบรอฮีม คือการเคารพกราบไหว้ต่ออัลลอฮ์องค์เดียวอย่างบริสุทธิ์ใจต่อศาสนาของพระองค์: 

ดังที่พระองค์ทรงตรัสว่า :

 وَمَا خَلَقْتُ الْجِنَّ وَالْإِنْسَ إِلَّا لِيَعْبُدُونِ 

และข้ามิได้สร้างญินและมนุษย์มาเพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อให้เขาเคารพภักดีต่อข้า” ซูเราะฮ์ อัซซาริยาต , 51:56

คำอธิบาย          

คำว่า دين (ศาสนา) หมายถึง: การอิบาดะฮ์  และยังหมายถึง: การตอบแทนและการคิดบัญชี ส่วน الحنفية (อัลฮะนีฟียะฮ์) คือแนวทางที่อัลลอฮ์ทรงบัญชาให้นะบีของพระองค์ปฏิบัติตาม ตามที่พระองค์ตรัสว่า:

 ثُمَّ أَوْحَيْنَا إِلَيْكَ أَنِ اتَّبِعْ مِلَّةَ إِبْرَاهِيمَ حَنِيفًا وَمَا كَانَ مِنَ الْمُشْرِكِينَ

แล้วเราได้วะฮีแก่เจ้าให้เจ้าได้ปฏิบัติตามแนวทางของอิบรอฮีม ผู้ตั้งมั่นในแนวทางที่เที่ยงตรง และเขาไม่ใช่หนึ่งในพวกตั้งภาคี” [อันนะห์ล : 123] 

     และความหมายของ “อัลฮะนีฟียะฮ์” คือ: “ไม่มีพระเจ้าที่ถูกเคารพสักการะอื่นใดนอกจากอัลลอฮ์” และอัลฮะนีฟียะฮ์ก็คือ เตาฮีด คือการที่ท่านเคารพภักดีต่ออัลลอฮ์เพียงองค์เดียว โดยบริสุทธิ์ใจต่อศาสนาทั้งหมดเพื่อพระองค์ และนี่คือความหมายของคำว่า “ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์” เพราะความหมายของมันคือ: “ไม่มีผู้ที่สมควรได้รับการเคารพภักดีอย่างแท้จริงนอกจากอัลลอฮ์” และถ้อยคำแห่งเตาฮีด (คำว่า “ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์”) ก็คือ : การอิบาดะฮ์ต่ออัลลอฮ์เพียงพระองค์เดียว พร้อมกับการละทิ้งการตั้งภาคี และสิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้น นอกจากโดยการ ปฏิเสธและการยืนยัน  

• “لا إله” (ไม่มีพระเจ้าที่ถูกเค่รพสักการะอื่นใด…) คือ การปฏิเสธ  

• “إلا الله” (…นอกจากอัลลอฮ์) คือ การยืนยัน 

     ฉะนั้นการยืนยัน คือ  : การเคารพภักดีต่ออัลลอฮ์ ผู้ทรงสูงส่ง ส่วนการปฏิเสธ คือ  :  การปฏิเสธปลีกตัวจากทุกสิ่งสิ่งที่ถูกเคารพบูชานอกเหนือจากอัลลอฮ์ และสิ่งนี้แหละคือ ความบริสุทธิ์ใจ (อัล-อิคลาศ) ซึ่ง อิคลาศ (ความบริสุทธิ์ใจ) จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีการปฏิเสธต่อฏอฆูต (ทุกสิ่งใดที่ถูกเคารพสักการะอื่นจากอัลลอฮ์) และศรัทธาต่ออัลลอฮ์เท่านั้น ดังที่อัลลอฮ์ตรัสว่า:

 فَمَنْ يَكْفُرْ بِالطَّاغُوتِ وَيُؤْمِنْ بِاللَّهِ فَقَدِ اسْتَمْسَكَ بِالْعُرْوَةِ الْوُثْقَى لَا انْفِصَامَ لَهَا وَاللَّهُ سَمِيعٌ عَلِيمٌ 

ใครก็ตามที่ปฏิเสธฏอฆูต และศรัทธาต่ออัลลอฮ์ เขาได้ยึดห่วงอันมั่นคง ซึ่งไม่มีวันขาด และอัลลอฮ์คือผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงรอบรู้” [อัลบะเกาะเราะฮ์: 256] 

     และคำว่า “อัลฮะนีฟียะฮ์” (الحنفية) ถูกเรียกเช่นนั้นเพราะมาจากรากศัพท์คำว่า الحَنَف แปลว่า การเอนเอียง เพราะแนวทางนี้ เอนเอียงออกจากการตั้งภาคี (ชิรก) และแนวทางนี้ยังถูกเรียกว่า: อิสลาม และแนวทางนี้ยังถูกเรียกว่า: ศาสนาที่เที่ยงตรง เพราะมัน เบี่ยงออกจากการตั้งภาคี และมันคือ ทางที่เที่ยงตรงโดยตัวของมันเอง และความหมายของมันคือ: การที่ท่านแสวงหาความใกล้ชิดต่ออัลลอฮ์ด้วยการทำอิบาดะฮ์ (การเคารพภักดี) และมุ่งหวังเจตนาทั้งหมดของท่านต่ออัลลอฮ์ ด้วยกับความบริสุทธิ์ใจ หมายความว่า: ท่านต้องมอบการอิบาดะฮ์ให้แก่อัลลอฮ์เท่านั้น และ ปฏิเสธการอิบาดะฮ์แก่สิ่งอื่นนอกจากพระองค์ ฉะนั้นท่านเคารพภักดีต่ออัลลอฮ์ด้วยการขอดุอาอ์ ท่านอย่าไปขอต่อสิ่งอื่นนอกจากพระองค์ ท่านเคารพภักดีต่ออัลลอฮ์ด้วยการเชือดสัตว์ ท่านอย่าเชือดเพื่อสิ่งอื่น และท่านเคารพภักดีต่ออัลลอฮ์ด้วยการสุญูด ท่านอย่ากราบสิ่งอื่นนอกจากพระองค์ ดังนั้นจำเป็นต้องอิบาดะฮ์ต่ออัลลอฮ์องค์เดียวเท่านั้น พร้อมด้วยความบริสุทธิ์ใจ อัลลอฮ์ได้สั่งใช้ให้มนุษย์ทุกคนเคารพภักดีต่อพระองค์ และพระองค์ได้สร้างพวกเขามาให้อิบาดะฮ์ทั้งญินและมนุษย์ ดังที่พระองค์ตรัสว่า:

 وَمَا خَلَقْتُ الْجِنَّ وَالْإِنْسَ إِلَّا لِيَعْبُدُونِ 

และข้ามิได้สร้างญินและมนุษย์มาเพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อให้เขาเคารพภักดีต่อข้า” [อัซ-ซาริยาต : 56] 

     และนี่คือสิ่งที่บรรดาเราะซูล (ศาสนทูต) ถูกส่งมาเพื่อมัน ถูกแต่งตั้ง และเป็นสิ่งที่อัลลอฮ์ประทานคัมภีร์ทั้งหลายลงมา ดังที่พระองค์ตรัสว่า:

 وَمَا أَرْسَلْنَا مِنْ قَبْلِكَ مِنْ رَسُولٍ إِلَّا نُوحِي إِلَيْهِ أَنَّهُ لَا إِلَهَ إِلَّا أَنَا فَاعْبُدُونِ 

และเราไม่ได้ส่งเราะซูลคนใดก่อนหน้าเจ้า เว้นแต่เราได้วะฮีย์แก่เขาว่า : ความจริงแล้วไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่เที่ยงแท้นอกจากข้า ดังนั้นจงเคารพภักดีต่อข้า” [อัลอัมบิยาอ์ : 25] 

     และพระองค์ตรัสอีกว่า:

   وَلَقَدْ بَعَثْنَا فِي كُلِّ أُمَّةٍ رَسُولًا أَنِ اعْبُدُوا اللَّهَ وَاجْتَنِبُوا الطَّاغُوتَ فَمِنْهُمْ مَنْ هَدَى اللَّهُ وَمِنْهُمْ مَنْ حَقَّتْ عَلَيْهِ الضَّلَالَةُ فَسِيرُوا فِي الْأَرْضِ فَانْظُرُوا كَيْفَ كَانَ عَاقِبَةُ الْمُكَذِّبِينَ 

“และแน่นอนเราได้ส่งเราะซูลไปในทุกๆประชาชาติ (โดย (บัญชาว่า ) พวกท่านจงเคารพภักดีต่ออัลลอฮ์ และจงหลีกหนีให้ห่างจากพวกฏอฆูต (สิ่งที่ถูกบูชานอกจากอัลลอฮ์) ดังนั้นในหมู่พวกเขา มีผู้ที่อัลลอฮ์ทรงชี้แนะทางแก่เขา และในหมู่พวกเขามีผู้ที่ความหลงผิดก็เป็นสิ่งที่สมควรแก่เขาแล้ว ดังนั้นจงเจ้าจงท่องเที่ยวไปในแผ่นดิน แล้วจงดูว่าบั้นปลายของพวกที่ปฏิเสธนั้นเป็นเช่นไร” [อันนะห์ล : 36] 

     และพระองค์ตรัสว่า:

 وَقَضَى رَبُّكَ أَلَّا تَعْبُدُوا إِلَّا إِيَّاهُ 

และพระเจ้าของเจ้าได้กำหนดแล้วว่า พวกเจ้าอย่าเคารพภักดีต่อผู้ใด นอกจากพระองค์เท่านั้น” [อัลอิสรออ์ : 23] 

     และพระองค์ตรัสว่า:

 وَاعْبُدُوا اللَّهَ وَلَا تُشْرِكُوا بِهِ شَيْئًا 

และจงเคารพสักการะต่ออัลลอฮ์เถิด และอย่าให้มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดเป็นภาคีกับพระองค์” [อันนิสาอ์ : 36]

ความคิดเห็น
* อีเมลจะไม่ถูกเผยแพร่บนเว็บไซต์